คำถามที่พบบ่อย
ที่นี่คือคลังคำตอบของคำถามที่ถูกถามบ่อยครั้งโดยลูกค้าของเรา ถ้าคุณมีคำถามอื่น ๆ ซึ่งไม่ปรากฏในหน้านี้ โปรดส่งข้อความทิ้งไว้หรือแจ้งให้เราทราบทาง [email protected]เรายินดีที่จะตอบคำถามที่สำคัญที่สุดในชีวิตเหล่านี้ให้กับคุณ
คำถาม: การตรวจแบบที่ใช้ได้ในทางกฎหมาย และการตรวจแบบที่ทำด้วยตัวเองต่างกันอย่างไร?

มีข้อแตกต่างเพียงประการเดียว และนั่นไม่ได้มีผลต่อกระบวนการตรวจพิสูจน์แต่อย่างใด อธิบายง่ายๆ ก็คือ การตรวจแบบที่ทำด้วยตัวเอง คุณสามารถเก็บและส่งตัวอย่างได้ด้วยตัวคุณเอง แต่ถ้าเป็นการตรวจแบบที่ใช้ได้ในทางกฎหมาย คุณจะไม่สามารถเก็บหรือส่งตัวอย่างด้วยตัวคุณเองได้
กระบวนการตรวจพิสูจน์ของการตรวจแบบที่ใช้ได้ในทางกฎหมาย (หรือเรียกอีกอย่างว่า การตรวจพิสูจน์ที่อาศัยกระบวนการครอบครองวัตถุพยานที่ตรวจสอบได้) และการตรวจแบบที่ทำด้วยตัวเอง (หรือเรียกอีกอย่างว่า การตรวจเพื่อความสบายใจ) นั้นเป็นกระบวนการแบบเดียวกัน ทั้งสองมีวิธีการทดสอบที่รับรองความถูกต้องแม่นยำอย่างน้อย 99.99% เหมือนกัน และผลการตรวจของทั้งสองแบบผ่านการรับรองเอกสารเหมือนกัน ฉะนั้นกล่าวโดยสรุปคือทั้งสองแบบคือการตรวจพิสูจน์แบบเดียวกัน และมีราคาเท่ากันด้วย
ข้อแตกต่างเพียงประการเดียวคือขั้นตอนที่ใช้ในการเก็บและส่งตัวอย่างมายังห้องปฏิบัติการของเรา โดยการตรวจแบบที่ใช้ได้ในทางกฎหมายจะมีค่าธรรมเนียมสำหรับการเก็บตัวอย่างด้วยกระบวนการครอบครองวัตถุพยานที่ตรวจสอบได้ ซึ่งคุณสามารถจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ซึ่งทำการเก็บตัวอย่างให้คุณได้โดยตรง ซึ่งค่าธรรมเนียมดังกล่าวครอบคลุมกระบวนการเก็บตัวอย่าง และรายการเอกสารตามที่ปรากฏด้านล่าง
โดยการตรวจที่สามารถยอมรับได้ในทางกฎหมายนั้น จะต้องมีข้อกำหนดในขั้นตอนการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ 3 ข้อ คือ;
1. ตัวอย่างทั้งหมดจะต้องดำเนินการเก็บโดยบุคคลภายนอกที่เป็นอิสระและได้รับการรับรอง
ตัวอย่างดีเอ็นเอสำหรับการตรวจแบบที่ใช้ได้ในทางกฎหมายจะต้องถูกเก็บโดยบุคคลภายนอกที่เป็นอิสระ (ผู้มีหน้าที่เก็บตัวอย่างที่ได้รับการรับรอง, แพทย์ หรือทนายความ) โดยบุคคลเหล่านี้จะต้องให้การรับรองในชั้นศาลด้วยว่าพวกเขาเก็บตัวอย่างด้วยกระบวนการที่ถูกต้องและตรวจสอบได้
2. กระบวนการครอบครองวัตถุพยานที่ตรวจสอบได้ของตัวอย่าง
การตรวจแบบที่ใช้ในทางกฎหมายได้ จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดต่อไปนี้
- สามารถตรวจสอบได้ถึงตำแหน่งแห่งที่ซึ่งตัวอย่างนั้น ๆ ถูกเก็บมาหรือนำไปเก็บไว้ และต้องตรวจสอบได้ว่าตัวอย่างนั้น ๆ ไม่ถูกสับเปลี่ยนหรือทำให้เปลี่ยนแปลงไป
- สามารถตรวจสอบได้ว่าใครบ้างที่เคยครอบครัวตัวอย่างดีเอ็นเอนั้น และคนเหล่านั้นจะต้องให้การยืนยันได้ในชั้นศาล
- ตัวอย่างดีเอ็นเอนั้นจะต้องไม่ถูกครอบครอง หรือทิ้งไว้ตามลำพังกับบุคคลที่ถูกตรวจพิสูจน์ หรือบุคคลอื่นใดที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการครอบครองตัวอย่างนั้น ๆ
3. การสามารถระบุตัวบุคคลได้
การตรวจดีเอ็นเอแบบที่ใช้ได้ในทางกฎหมาย จะต้องสามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของตัวอย่างดีเอ็นเอได้ เพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลนั้นเป็นคนที่เขากล่าวอ้างว่าเป็นจริง ๆ กระบวนการสำหรับการระบุตัวบุคคลนี้ ได้แก่
- การยืนยันด้วยภาพถ่ายบัตรประจำตัว (บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง) หรือสูติบัตรของเด็ก
- การยืนยันด้วยวันเกิด
- การใช้ลายพิมพ์นิ้วมือ
- การถ่ายภาพในขณะทำการเก็บตัวอย่าง
- การกรอกข้อมูลในเอกสารแสดงความยินยอมตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงข้อมูลการติดต่อและข้อมูลอื่น ๆ
ดังนั้น ในการตรวจเพื่อความสบายใจ คุณสามารถเก็บตัวอย่างและส่งตัวอย่างเพื่อการตรวจได้ด้วยตัวของคุณเอง และคุณจะได้การรับรองความถูกต้องแม่นยำตามมาตรฐาน 99.99% เช่นเดียวกับการตรวจแบบที่ใช้ได้ในทางกฎหมาย แต่ผลการตรวจแบบที่ตรวจเพื่อความสบายใจนี้จะไม่ได้สามารถใช้ได้กับการขออนุญาตเข้าเมือง การอ้างเป็นหลักฐาน หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดในทางกฎหมายได้เพราะเป็นการตรวจที่ไม่มีคุณสมบัติครบตามข้อกำหนดทั้งสามข้อข้างต้น
ถ้าทั้งสองเป็นการตรวจที่เหมือนกัน แสดงว่าราคาก็เท่ากันใช่ไหม?
ใช่แล้ว ราคาค่าตรวจของการตรวจทั้งสองแบบนั้นเท่ากัน แต่การตรวจแบบที่ใช้ได้ในทางกฎหมายนั้นจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก 1,500 บาท เป็นค่าธรรมเนียมการเก็บตัวอย่างด้วยกระบวนการที่ตรวจสอบการครอบครองวัตถุพยานได้ ซึ่งราคานี้รวมกระบวนการเก็บตัวอย่าง เอกสารทางกฎหมาย รวมถึงเอกสารอ้างอิงอื่น ๆ ในกรณีที่อาจมีผู้โต้แย้งความโปร่งใสในการครอบครองวัตถุพยานของคุณด้วย
ค่าธรรมเนียมในการเก็บตัวอย่างด้วยกระบวนการที่ตรวจสอบการครอบครองวัตถุพยานได้นั้นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของค่าบริการตรวจดีเอ็นเอ และไม่ใช่ค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้กับ พี ที ซี แลบบอราทอรี เว้นเสียแต่ว่าเจ้าหน้าที่ของแผนกลูกค้าสัมพันธ์ในกรุงเทพฯ ของเราเป็นผู้เก็บตัวอย่างให้คุณ ในกรณีเช่นนั้น คุณสามารถเพิ่มรายการค่าธรรมเนียมในการเก็บตัวอย่างด้วยกระบวนการที่ตรวจสอบการครอบครองวัตถุพยานได้ ส่วนในกรณีที่คุณได้รับการเก็บตัวอย่างโดยหนึ่งในศูนย์เก็บตัวอย่างของเรา หรือโดยแพทย์ (ที่ได้รับการรับรอง) คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมส่วนนี้ให้กับผู้เก็บตัวอย่างของคุณโดยตรง